ข่าวเด่นจาก Yengo

ข่าวดี!! สำหรับทุกคนที่อยากสวยคงทน สุขภาพแข็งแรง มีอาหารเสริมดูแลตัวเองแบบฟรี ๆ ทุกเดือน รับให้คำปรึกษา ฟรีครับ โทร.08-7033-5287

วันศุกร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2554

ทำไมไม่เคยสำเร็จ

Blog เพื่อการแบ่งปันสิ่งดีๆ ในการพัฒนาตัวเอง เพื่อความสุขที่มากกว่าของทุกคน โปรดส่งลิ้งแบ่งปันต่อเพื่อน ๆ เพื่อสร้างสรรค์โลกใบนี้ให้น่าอยู่ต่อไป.


ชีวิตเราใครกำหนด ... พระเจ้า..ชะตา... หรือใครกัน??

วันนี้เราจะมาดูวิธีการเปลี่ยนแปลงชีวิตเรากัน ....ชีวิตของคุณ คุณอยากเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้?
ถ้าคุณอยากเป็นผู้ชนะ อยากเป็นคนมีชื่อเสียงที่ประสบความสำเร็จ...ไม่ยากเลย!
ก็แค่มีความมุ่งมั่นที่จะทำ  ใส่ใจในการกระทำของคุณ....

คุณรู้อยู่แล้วว่าจะทำได้อย่างไร??
โฟกัสไปที่ความสำเร็จ ตามความฝันของคุณ  หรือใส่ใจในการสร้างทีมงาน
ใส่ใจในการสร้างความมั่งคั่ง...แล้วกลไกแห่งความสำเร็จจะเริ่มทำงาน!
หลังจากนั้น…. ลงมือทำ  ….ลงมือทำ  ด้วยความมุ่งมั่นเพื่อความสำเร็จนั้น

แล้วทุกอย่างก็จะขับเคลื่อนด้วยตัวมันเอง ในเวลาเพียง 1-3 เดือนเท่านั้น...ชีวิตก็ร่าเริงตลอดไป..

การเริ่มต้นที่แสนง่าย ใครก็ทำได้..
การดำเนินชีวิตของคนเรา คงไม่แตกต่างอะไรกันมากนัก  เพราะในทุกวันเรามักจะประสบพบเจอกับปัญหาอุปสรรคมากมาย มีทั้งเรื่องใหญ่และเรื่องเล็ก มีทั้งเรื่องที่เจอบ่อยและไม่บ่อย และหลายครั้งที่เรายอมแพ้ปัญหาเพราะใจเราไม่สู้ พอใจไม่สู้คิดว่าทำไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ สมองของเราก็จะปิดประตูไม่คิดอะไรอีกต่อไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ใจเราบอกว่าต้องเป็นไปได้ น่าจะพอมีหนทางแก้ไขได้ สมองของเราก็จะรับคำสั่งไปดำเนินการคิดหาหนทางต่อจนกว่าจะได้คำตอบหรือจน กว่าจะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้จริงๆเหมือนที่ใจเราคิดตั้งแต่แรก

คนหลายคนที่ไม่สามารถสานฝันให้เป็นจริงได้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่ง เขาไม่มีโอกาส แต่...เขามักจะทำลายโอกาสในชีวิตด้วยการสะสมสารพัดข้ออ้างไว้มากเกินไป เช่น
  • อยากทำธุรกิจส่วนตัว แต่คงจะเป็นไปไม่ได้เพราะเราไม่มีเงินทุนเพียงพอ
  • อยากออกจากงานประจำไปทำอาชีพอิสระ แต่กลัวว่าไม่มั่นคง รายได้ไม่แน่นอน
  • อยากจะเรียนต่อ แต่คงจะยากเพราะไม่มีเวลาและบริษัทคงไม่อนุญาตให้เรียน
  • อยากจะทำสวนแต่ไม่มีที่ดิน เงินก็ไม่มี คงเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น
  • อยากมีเงินมากพอ แต่ชอบอ้างเรื่อง ไม่มีเวลา งานยุ่ง ไม่มีเงินทุน  สารพัดอ้าง
     
ข้ออ้างเหล่านี้ มักจะตัดโอกาสดีๆในชีวิตของเราทิ้งไปเยอะมาก ข้ออ้างหลายอย่างเกิดจากความรู้สึกของตัวเราเองเท่านั้น ไม่ได้เกิดจากข้อมูลและข้อเท็จจริงอะไรเลย บางข้ออ้างได้รับอิทธิพลมาจากคนอื่น เช่น เพื่อนเราออกจากงานประจำไปทำธุรกิจส่วนตัว ปรากฏว่าทำได้ไม่นานธุรกิจไปไม่รอด กลับมาทำงานเป็นลูกจ้างเหมือนเดิม และหางานยากกว่าเดิมอีก โดยที่เรายังไม่ได้วิเคราะห์ว่าตัวเรากับเพื่อนเราคนนั้นมีอะไรเหมือนหรือ ต่างกันบ้าง หรือมีอะไรบ้างที่เพื่อนเราผิดพลาดไปแต่เราสามารถนำมาป้องกันแก้ไขได้  ติดกับอดีตของตัวเอง ไม่ยอมให้โอกาสตัวเองในการเริ่มต้นใหม่..

เพื่อให้ทุกท่าน สามารถลด ละ เลิกการสะสมข้ออ้าง หรือกำจัดข้ออ้างที่มีอยู่ในชีวิตและทำให้ชีวิตก้าวหน้ากว่าที่ควรจะเป็น ด้วยแนวทางดังต่อไปนี้
  • ตรวจสอบดูว่าปัจจุบันเรายังมีความฝันหรือเป้าหมายอะไรบ้างที่เรายังไปไม่ถึงหรือยังไม่เป็นจริง
    ทั้งนี้ เพื่อให้ทราบว่าเป้าหมายในชีวิต ณ เวลานี้ มีอะไรบ้าง แต่ละเรื่องเราต้องการไปให้ถึงเป้าหมายเมื่อไหร่ เช่น เราอยากศึกษาต่อ เราอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ฯลฯ และถ้าเป็นไปได้ ลองคิดย้อนกลับไปหาความฝันบางเรื่องที่เราเคยตัดใจลบทิ้งไปแล้วด้วยว่ามี อะไรบ้าง เพราะบางเรื่องอาจจะยังมีหนทางที่พอเป็นไปได้ พูดง่ายๆคือเรารีบกำจัดความฝันด้วยการฟันหน่อของความฝันทิ้งตั้งแต่เพิ่ง งอกออกมาจากหัว เช่น เราเคยคิดอยากจะเป็นดารา/นักการเมืองตอนที่เรายังหนุ่มๆหรือเป็นวัยรุ่น เราเคยคิดอยากจะไปทำงานเมืองนอก ฯลฯ แต่ตอนนี้เราเลิกคิดไปหมดแล้ว

     
  • รวบรวมข้ออ้างที่ทำให้ความฝันของเรายังไม่เป็นจริง
    ขอให้วิเคราะห์ดูว่าความฝันหรือเป้าหมายในชีวิตที่เราเคยกำจัดทิ้งไปแล้ว หรือยังค้างคาอยู่ในใจในปัจจุบัน แต่ละข้อนั้นเรามีข้ออ้างอะไร เช่น เราเป็นดาราไม่ได้แน่ๆเพราะตอนนี้แก่แล้ว หรือเราคงจะร่ำรวยไม่ได้หรอกเพราะเราทำงานกินเงินเดือน เราคงจะไม่ได้เรียนต่อเมืองนอกแล้วแน่ๆ เพราะมีครอบครัวแล้ว ลูกก็เล็กอยู่ ฯลฯ ซึ่งอาจจะทำสรุปข้ออ้างกับเป้าหมายในชีวิตออกมาเป็นตารางเพื่อดูว่าข้ออ้าง อะไรบ้างที่ขัดขวางเป้าหมายในชีวิต เพราะข้ออ้างบางเรื่องอาจจะขัดขวางเป้าหมายในชีวิตมากกว่าหนึ่งเป้าหมายก็ ได้ เช่น เราไม่มีเงินอาจจะขัดขวางทั้งเป้าหมายในการศึกษาต่อ เป้าหมายในการทำธุรกิจส่วนตัว ฯลฯ

     
  • กำจัดข้ออ้าง
    จริงๆแล้วข้ออ้างคือตัวถ่วงในชีวิตของคนเราที่สำคัญมาก ดังนั้น จึงขอแนะนำให้กำจัดข้ออ้างในชีวิตให้หมดไปหรือเหลือน้อยที่สุด โดยวิธีการในการกำจัดข้ออ้างที่ดีที่สุดคือ
     
  • ให้ตอบคำถามว่า “มีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่”
    ให้เราเริ่มต้นจากการนำเอาเป้าหมายแต่ละข้อพร้อมกับข้ออ้างที่เรารวบรวมมา ได้ ลองนำมาถามตัวเองว่าโอกาสที่จะทำให้เป้าหมายในชีวิตเรื่องนั้นๆเป็นจริงมี หรือไม่ ถ้าคำตอบคือ “เป็นไปไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์” ด้วยเหตุด้วยผล เช่น เราเป็นทหารไม่ได้แน่นอนเพราะเราเป็นคนพิการแขนและขา เราอยากจะเป็นนักสำรวจอวกาศขององค์กรนาซ่า แต่คงเป็นไปไมได้หรอกเพราะตอนนี้เราอายุ 50 แล้วและมีความรู้แค่เพียง ป.4 ฯลฯ ขอให้ลบความฝันเหล่านี้ทิ้งไปเลยไม่ต้องเก็บมาหลอกหลอนตัวเองอีกต่อไป เพราะยังไงก็เป็นไปไม่ได้แน่ๆ

     
  • คิดหาทางออกให้คำถามที่ตอบว่า
    “น่าจะพอมีโอกาสเป็นไปได้บ้าง”
    เป้าหมายชีวิตข้อใดที่เราคิดว่าพอมีหนทางเป็นไปได้บ้างแม้จะมีอยู่เพียงน้อย นิดก็ให้นำมาคิดต่อว่ามีทางเลือกหรือแนวทางอะไรบ้าง เช่น

    - โอกาสที่เราจะได้เป็นนักการเมืองระดับชาติ น่าจะพอเป็นไปได้ แม้ว่าเราไม่เคยสนใจการเมืองมาก่อนและไม่มีฐานเสียงอะไรมาก่อน สำหรับแนวทางก็พอมีบ้าง เช่น ลงเลือกตั้งในช่วงที่พรรคฝ่ายค้านประท้วงไม่ลงสมัครเหมือนที่คนบางคนได้ คะแนนเพียงไม่กี่พันคะแนนก็ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ได้ หรือไปแต่งงานกับลูกนักการเมืองที่เขามีฐานเสียงดีอยู่แล้ว หรือไปทำงานด้านมูลนิธิเพื่อให้คนรู้จักมากขึ้น หรือไปเป็นที่ปรึกษาผู้ใกล้ชิดกับนักการเมืองที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว หรือไปทำงานเกี่ยวกับอาชีพที่คนรู้จักมาก เช่น ดารา นักร้อง นักแสดง พิธีกร ฯลฯ แล้วค่อยไปลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิกที่ไม่ต้องสังกัดพรรคและใครก็ สมัครได้ถ้ามีคุณสมบัติครบถ้วน

    - โอกาสที่เราจะศึกษาต่อเมืองนอก แม้ว่าเราจะมีครอบครัวแล้วก็น่าจะพอเป็นไปได้ เช่น เลือกไปทำงานกับบริษัทต่างชาติที่มีโอกาสย้ายเราและครอบครัว ไปทำงานต่างประเทศก่อนและค่อยหาหนทางในการศึกษาต่อต่อไป หรือสอบชิงทุนการศึกษาต่างประเทศ หรือทำงานกับบริษัทที่มีทุนเรียนต่อต่างประเทศในขณะเดียวกันก็ยังมีเงิน เดือนเลี้ยงครอบครัวอยู่ด้วย หรือเก็บเงินและเรียนทางไกลกับสถาบันการศึกษาต่างประเทศผ่านอินเตอร์เน็ตโดย ไม่ต้องไปอยู่ประจำ แต่สามารถเรียนต่อได้ ทำงานไปด้วยก็ได้

     
สรุป ข้ออ้างในชีวิตของเราจะหมดไปด้วยการ ลบเป้าหมายที่ไม่มีทางเป็นไปได้จริงๆออกไปจากชีวิต และให้เปลี่ยน “ข้ออ้าง” ของเป้าหมายชีวิตที่พอมีหนทางเป็นไปได้ ให้เป็น “แนวทาง” ถึงเวลานี้ชีวิตเราก็คงจะไม่มีข้ออ้างหลงเหลืออยู่เลยหรือจะมีก็คงจะมีน้อย มาก หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะลองนำแนวทางนี้ไปใช้ในการกำจัดข้ออ้าง เพื่อกรุยทางสร้างความฝันในชีวิตของท่านให้เป็นจริงได้มากยิ่งขึ้นนะครับ

ขอแค่เปิดใจ เดินร่วมทางไปด้วยกัน B-POWER SYSTEM 

 

รวมหนังสือพิมพ์ ,ไทยรัฐ , เดลินิวส์ , สำนักข่าวINN , ไทยโพสต์ , มติชน , ข่าวสด , คมชัดลึก , ผู้จัดการ , สยามกีฬา , โพสต์ทูเดย์, แนวหน้า , สยามรัฐ , BangkokPost , เนชั่น , สยามธุรกิจ , กระแสหุ้น , บ้านเมือง , เทเลคอมเจอร์นัล , immjernal